TESTIMONIAL

Minisize Me สิ่งทอรักษ์โลก

 จากอดีตนักร้องคู่ดูโอชื่อดัง “โน้ต-ตูน” สุภัชชา ปิตินันท์ สาวสวยดีกรีปริญญาโทวิศวะ ได้ผันตัวมาเป็น Working Mom หลังจากที่แต่งงานและมีลูก ทำธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเสื้อผ้าแบรนด์ Minisize Me

เราเจอตูนวันแรกที่เธอนำเสื้อผ้าน่ารัก น่าสวมใส่ แบบคู่ของแม่ลูก มา Pitching เพื่อเข้าเรียนในหลักสูตร Neo Exporter ที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXAC) เธอพูดถึง Minisize Me ว่า เธอได้แรงบันดาลใจการทำธุรกิจนี้มาจากลูกสาวตัวน้อย

“ที่มาของเสื้อผ้าที่ทำจากฝ้ายออแกนิคนี้มาจากการที่เรามีลูกสาว และน้องมักจะเป็นผื่นแพ้ที่เกิดจากสิ่งต่างๆ รอบตัว ตูนตั้งใจจะเลือกของใช้ที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดให้กับลูก เพราะผิวเด็กแพ้ง่ายต้องใช้ของที่อ่อนโยน วัสดุที่นำมาทำผลิตภัณฑ์จะต้องพิถีพิถัน มาจากธรรมชาติผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” สุภัชชา กล่าว

หลังจากได้แนวคิดการทำผลิตภัณฑ์แล้ว ก็มาตกผลึกตรงที่คิดว่าจะใช้ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ  เริ่มตั้งแต่เป็นต้นฝ้ายอินทรีย์ ก่อนจะนำใยฝ้ายอินทรีย์เหล่านั้นมาถักทออย่างประณีตด้วยฝีมือและภูมิปัญญาของคนไทย ออกมาเป็นผืนผ้าฝ้ายทอมือที่นุ่มนวล

คุณตูนเล่าว่า ตั้งใจว่าอยากจะให้สินค้าเรามีส่วนในการช่วยส่งเสริมการปลูกฝ้ายที่ปราศจากสารเคมี  การย้อมฝ้ายก็จะย้อมด้วยสีธรรมชาติที่ได้จากใบไม้ เปลือกไม้ จนถึงการทอผ้าที่ได้คัดเลือกช่างทอผ้าไทยในกลุ่มชุมชนต่างๆ มาทำ เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน

“เราได้นำเอาเทคโนโลยี Anti-Bacteria ที่ผ่านการรับรองจากสถาบัน Intertek จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาใช้กับทุกผลิตภัณฑ์  ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าที่มอบความปลอดภัยให้กับผู้สวมใส่ทุกคน โดยเฉพาะลูกๆของคุณ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของ Minisize Me คือ คุณแม่ที่มีความใส่ใจในการเลือกของให้ลูก ชอบใช้ของที่ทำจากธรรมชาติ  ส่วนกลุ่มเป้าหมายรอง คือผู้ที่มี Lifestyle แบบ Eco Lifestyle หรือ LOHAS (Lifestyles of Health and Sustainability) ผู้ที่ชื่นชอบผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าทอจากใยธรรมชาติ และผู้ที่ชื่นชอบงาน Craft

อย่างไรก็ตาม ไม่มีงานใดไม่มีอุปสรรคเพราะความเนี้ยบของ Minisize Me ตั้งแต่การปลูกฝ้ายจนถึงตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าต้องตรงตามมาตรฐานที่วางไว้เท่านั้น จึงทำให้สินค้ามีราคาสูงกว่าเสื้อผ้าที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมมาก

“ราคาอาจจะทำให้คนทั่วไปเข้าไม่ถึงสินค้า แต่ถ้าลองได้ซื้อไปใช้แล้วเห็นว่าคุ้มค่า เพราะผ้าฝ้ายของเรานิ่มนวลต่างจากผ้าฝ้ายทอทั่วๆไป ใช้แล้วจะติดใจ ตอนนี้เพิ่งเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงกำลังตั้งไข่ และค่อย ๆ ก้าวเดิน ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร แบรนด์ยังอยู่ในจุดที่ต้องสร้างการรับรู้ให้คนรู้จักเพิ่มมากขึ้น ขยายตลาดให้กว้างขึ้น เพื่อสร้างยอดขายเพิ่ม” สุภัชชา กล่าว

ในช่วงกำลังตั้งไข่นี้ ทำให้คุณตูนต้องหาความรู้ในการทำธุรกิจเพิ่มเติม จากเดิมที่มีพื้นฐานทำธุรกิจเอเยนซี่รับจัดงานอีเวนท์ แต่ธุรกิจไม่เหมือนกันและเหนืออื่นใดคุณตูนมีความตั้งใจที่จะให้ Minisize Me โกอินเตอร์ ขยายตลาดไปในต่างประเทศ ซึ่งเป้าหมายคือ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบ LOHAS

คุณตูน กล่าวว่า ได้มาเรียนหลักสูตรผู้ส่งออกมือใหม่ ที่ EXAC เท่ากับทบทวนวิชาความรู้ที่มีว่ามีอะไรที่เรายังไม่ได้เอามาใช้บ้าง อะไรที่เราต้องทำเพิ่มเติมอีก  ได้เจอเพื่อนๆ ที่มีความต้องการเหมือนกันที่อยากจะส่งออก  ก็สนุกและได้ความรู้ ซึ่งเราจะพยายามทำตามฝันให้ได้ และเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการที่ธุรกิจจะเติบโตได้นั้น ต้องมีการสนับสนุนจากคู่ค้าและพันธมิตรที่ดี

“ตอนนี้ความฝันก็ขยับไปได้อีกก้าวหนึ่ง ได้รับข่าวดีว่าทางห้างสรรพสินค้า ทาคาชิมายา ที่ตั้งอยู่ภายในไอคอนสยาม สนใจที่จะให้เรานำสินค้าไปวางขาย เพราะสินค้าเราตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่น ซึ่งเราดีใจเพราะเราเองก็ชอบสินค้าแบรนด์ MUJI ของญี่ปุ่น ที่มีหลักการทำธุรกิจเหมือนกัน อาจจะวางขายใน shelf เล็กๆ แต่ก็เป็นก้าวสำคัญที่คิดว่าจะช่วยผลักดันการส่งออกทางอ้อม” คุณตูนกล่าว    

สำหรับช่องทางการทำตลาดสินค้าในปัจจุบัน คุณตูนจะเน้นช่องทาง Online เป็นหลัก ทั้ง Facebook และ Instagram   รวมถึงออกบูธตามงานต่าง ๆ เช่น งานแม่และเด็ก และงานคราฟท์ที่เป็นสินค้าทำมือ เธอมองว่าการออกบูธแต่ละครั้ง ช่วยให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสกับเสื้อผ้าของแบรนด์ เพื่อจะได้รู้ว่าผ้าฝ้ายทอมือนั้นนุ่มตั้งแต่สัมผัสแรกขนาดไหน เนื่องจากลูกค้าดูรูปผ่านทาง Online แล้วอาจจะนึกไม่ออกว่าผ้าฝ้ายทอมือนั้นนุ่มได้ขนาดนี้เลยเหรอ

ปัจจุบันแบรนด์กำลังต่อยอดผลิตภัณฑ์แม่และเด็กให้ครบวงจร ตั้งใจจะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่สินค้าสำหรับคุณแม่ เช่น ผ้าคลุมให้นม ชุดคลุมท้อง และสินค้าสำหรับลูก เช่น ผ้ากันเปื้อน หมวก กระเป๋า ฯลฯ ทั้งนี้ แบรนด์จะสร้างการทอลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเราโดยเฉพาะ เพื่อสร้างการจดจำให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

“อยากให้แบรนด์ Minisize Me มีชื่อเสียง สร้างการรับรู้ มีคนรู้จักไปในหลาย ๆ ประเทศ เพื่อประกาศให้โลกได้รับรู้ว่ามีสินค้าจากผ้าฝ้ายทอมือที่ย้อมสีจากธรรมชาติ 100% ที่เป็นฝีมือและภูมิปัญญาของคนไทย นำมาตัดเย็บเป็นชุดที่มีดีไซน์ให้ได้ใส่เป็นแบบ Everyday Look ใส่คู่กันแบบแม่ลูก หรือใส่เป็นครอบครัว ได้ทุกวัน และวันสำคัญตามเทศกาลต่าง ๆ” คุณตูน กล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

Related
more icon
  • กระเป๋าใส่จักรยานไทย ดังไกลในต่างแดน

    “ การได้ทำงานในสิ่งที่รัก ก็เหมือนกับไม่ได้ทำงาน ไม่เหนื่อย ไม่ท้อ ไม่กดดัน และมีความสุขที่ได้ทำงานทุกวัน” เป็นหลักการในการทำธุรกิจของ คุณวิภพ ล้อมเขต เจ้าของบริษัท Move cycling prod...

    calendar icon16.03.2020
  • ลิปมันออร์แกนิก Lovella Organics

    “ใครที่อยากส่งออก ต้องเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ตามกฎระเบียบ” ลักษณ์วดี พิพัฒนศิริกุล เจ้าของธุรกิจส่งออกลิปมันออร์แกนิก Lovella Organics บริษัท โลเวลล่าเวิลด์ จำกัด ธุรกิจเปลี่ยนโลกในยุคนี้ ส่วนให...

    calendar icon03.03.2020
Most Viewed
more icon
  • เขียน Product of Thailand บนผลิตภัณฑ์ เคล็ดลับส่งออกของ Thai Younger Farm

    กอล์ฟ - ณัฐกิตติ์ จิตต์ปราณีชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท Thai Younger Farm ในแต่ละปี มีนักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นจำนวนไม่น้อย แต่มีไม่กี่คนที่สามารถจะต่อยอดแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจนกลายเป็นผู้ส่งออกได...

    calendar icon28.08.2020
  • 'พันธมิตร' เคล็ดลับความสำเร็จสไตล์ Snow girl

    “การทำธุรกิจให้รวยคนเดียวมันหมดสมัยแล้ว ต้องไปด้วยกันเป็นกลุ่ม มีพาร์ทเนอร์ ช่วยให้เราเห็นมุมมองกว้างขึ้นและรู้เทรนด์โลก” ดร.ธนธรรศ สนธีระ หรือคุณโอเล่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด ...

    calendar icon18.04.2020
  • อยากส่งออกต้อง ‘ไม่หยุดเรียนรู้’

    มหพันธ์ ศุภศรีผู้จัดการทั่วไป บริษัท ภัทรภร โฮมเมด จำกัด การจะเป็นผู้ส่งออกในยุคนี้ ต้องนับว่าง่ายกว่าการเป็นผู้ส่งออกในยุคบุกเบิกมาก เพราะมีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้า มีตัวช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ท...

    calendar icon05.06.2020