TESTIMONIAL

มหพันธ์ ศุภศรี  ผู้จัดการทั่วไป  บริษัท ภัทรภร โฮมเมด จำกัด

การจะเป็นผู้ส่งออกในยุคนี้ ต้องนับว่าง่ายกว่าการเป็นผู้ส่งออกในยุคบุกเบิกมาก เพราะมีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้า มีตัวช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน แต่กว่าจะเป็นผู้ส่งออกที่ประสบความสำเร็จมีออเดอร์สม่ำเสมอและมีมูลค่าการส่งออกเพิ่ม ก็ใช่ว่าจะง่ายสำหรับผู้ส่งออกทุกราย

 “แม้จะมีตัวช่วย แต่ผู้ประกอบการเองต้องมีความกระตือรือล้น สนใจและใส่ใจกับการพัฒนาตัวเองและไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ” มหพันธ์ ศุภศรี  ผู้จัดการทั่วไป  บริษัท ภัทรภร โฮมเมด จำกัด  ผู้ผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์สารพัดรสในนาม “ภัทรภร” กล่าว

คุณมหพันธ์ เป็นเจ้าของกิจการอีกรายที่สมัครเข้าเรียนในหลักสูตร Neo Exporter  รุ่นแรก ของ  ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXAC) ด้วยเหตุผลต้องการพัฒนาตัวเอง เนื่องจากไม่ได้หวังพึ่งความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพราะรู้ดีกว่าหน่วยงานภาครัฐนั้นช่วยเหลือได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อวันที่จะต้องทำตลาดส่งออก  จะต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด  จะต้องผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน บริหารต้นทุนให้ดีและขายได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ก่อนที่จะคิดขยายตลาดส่งออก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ของ ภัทรภร โฮมเมด  มีวางขายในประเทศตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ  Central Food Hall ที่เซ็นทรัลเวิลด์ , เทอร์มินอล 21 สุขุมวิท , สยามดิสคัฟเวอรี่ ฯลฯ

คุณมหพันธ์ เล่าว่า เริ่มจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท ภัทรภร โฮมเมด เมื่อปี 2558 ก่อนหน้านี้ก็ทำสินค้าขายไปเรื่อยๆ ค่อยๆ สร้างแบรนด์ไป แต่ก็ไม่ได้หยุดแค่นี้เพราะต้องการยกระดับสินค้าขึ้นไปให้ได้มาตรฐาน ให้เป็นสินค้าพรีเมียม จึงได้เริ่มไปหารือกับทางสถาบันอาหารว่าจะต้องทำอย่างไรให้ได้มาตรฐาน ไปหารือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พยายามไปร่วมกิจกรรมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อหาตลาดใหม่ๆ

“ข้อดีของการมีร้านขายสินค้าในประเทศคือ เราสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อย่างละเอียดว่า ลูกค้าเราเป็นใคร อายุ เพศ  ชอบรับประทานรสไหน ซึ่งพบว่า ยอดขายในร้านนั้น 70% เป็นของลูกค้าต่างชาติเป็นนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นคนจีน ในจำนวนนี้ 25% เป็นลูกค้าชาวตะวันออกกลาง “ มหพันธ์ กล่าว

เมื่อเก็บข้อมูลมาหลายปี กลุ่มลูกค้าไม่เปลี่ยน จึงเห็นว่าสินค้าที่ผลิตออกมานี้น่าจะส่งออกได้ ก็เริ่มศึกษาว่าถ้าจะทำธุรกิจส่งออก จะต้องทำอะไรบ้าง ต้องมีกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องหมายฮาลาล มีใบอนุญาตจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) มีให้ครบทุกอย่างตามมาตรฐานสินค้าส่งออก

เขาคิดว่า ได้ขายสินค้าในประเทศมาระยะหนึ่ง ก็เป็นที่รู้จักในตลาดบ้าง แต่ตลาดในประเทศเริ่มตันๆ แล้ว การเก็บข้อมูล ทำให้มหพันธ์รู้อีกว่า  สินค้าของภัทรภรโฮมเมดนั้น ขายออนไลน์ไม่ดีเท่าขายออฟไลน์  ขายให้คนไทยได้เฉพาะเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นตลาดจะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่หากนักท่องเที่ยวไม่มา เราก็ควรจะนำสินค้าไปหาเขา จึงมุ่งมั่นที่จะส่งออกโดยเจาะกลุ่มตะวันออกกลางให้ได้ 

เมื่อคิดจนตกผลึกแล้ว  มหพันธ์ จึงไปหากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ขอไปออกบูทขายสินค้าในต่างประเทศ เมื่อปี 2561 ได้ไปที่ เกาหลี ฮ่องกง  เมื่อต้นปีที่แล้วก็ไปออกบูทขายสินค้าที่มาเลเซีย บาร์เรนห์ ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก

“ขณะนี้ สินค้าเรามีขายในต่างประเทศบ้างแล้ว แต่เราไม่ได้ส่งไปจำหน่ายโดยตรง เป็นผู้นำเข้าจากต่างประเทศติดต่อมา ปีที่แล้วมี 2 ประเทศที่สั่งเข้ามาคือ  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  และ  เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่จำนวนที่สั่งนำเข้าก็ไม่มากนัก

“เราดีลไปแบบมวยวัด โดยหลักการนั้นเราเริ่มรู้ว่าแบบฟอร์มการส่งออก รูปแบบการชำระเงิน ได้มาเรียนที่ EXAC ก็ได้เทคนิคการจัดการให้เป็นระบบมากขึ้น” คุณมหพันธ์ กล่าว

สำหรับจุดเด่นของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ภัทรภร โฮมเมด คือตัวสินค้าเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ขนาดใหญ่ ที่คั่วบนกระทะทองเหลืองตามกรรมวิธีแบบโบราณซึ่งเป็นสูตรของครอบครัว  ไม่ใช้น้ำมัน มีการเคี่ยวคาราเมลให้งวดแห้งและกรอบทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หอมหวานกรอบไม่เหมือนใคร และมีหลายรส

“การรู้ว่าลูกค้าผมเป็นใครนั้น ผมรู้ละเอียดเพราะผมเก็บข้อมูลลูกค้ามานานหลายปี เป็นใครชาติไหน เพศ อายุ รสชาติเม็ดมะม่วงที่ซื้อ ซื้ออย่างไหนมากอย่างไหนน้อย ซึ่งของเราชัดเจนว่าลูกค้าเราคือ จีน และ ตะวันออกกลาง  ไม่มีเด็กเลย นั่นคือสถิติที่เราเก็บไว้  

สิ่งที่ผมอยากแบ่งปันกับเพื่อนๆ คือ การจะส่งออก ต้องมีข้อมูลไม่ใช่ไปแบบสะเปะสะปะ ทำให้มุ่งเป้าไปได้ถูกจุด วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้อง ต้องรู้จักสินค้าของตัวเองอย่างถ่องแท้ และรู้ว่าลูกค้าเราคือใคร  นี่คือสิ่งที่ผมทำมาตลอด ผมรู้ว่าผมขาย Thailand Souvenir ไม่ได้ขายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพราะเรามีเอกลักษณ์ มีความแตกต่าง มีจุดยืน ใครได้รับเป็นของขวัญของฝากถือว่าพิเศษ ” มหพันธ์ กล่าว

การมาเรียนเพิ่มเติมที่ EXAC เพื่อให้รู้เรื่องการส่งออกให้มากขึ้นนั้น เขาคาดหวังว่าจะเป็นการติดอาวุธให้เขาเป็นนักรบผู้ส่งออกที่แข็งแกร่งของไทยในอนาคต