Exporter World Talk

วันที่ 24 มีนาคม 2564

Exporter World Talk EP:15  ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า  เชิญ คุณณชธร มโนปัญจสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ. นครคุนหมิง กระทรวงพาณิชย์ มาสนทนาอัปเดตสถานการณ์การค้า การลงทุนใน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด  ภาวะเศรษฐกิจ การค้า  การลงทุน ของจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร     

คุณณชธร กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจจีน ในขณะนี้ว่า หลังจากได้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้น ซึ่งจีนเป็นประเทศแรกที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด   แต่ใช้เวลาในการฟิ้นตัวเร็ว หลังจากล็อกดาวน์ประเทศแค่ประมาณ 1 เดือน  ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว เนื่องจากการควบคุมโรคระบาดของเขาสามารถทำได้ดีมาก ในแง่ของการควบคุมโรคมีการสั่งการกันตั้งแต่นครปักกิ่งไปจนถึงมณฑลต่างๆ  และมีความเข้มงวด จึงส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนกลับมาฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว แม้ว่าช่วงแรกๆจะมีหยุดชะงักไปประมาณ 3-4 เดือน แต่หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นปกติ

ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนถือว่าเป็นบวก  มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 2.3%  และในช่วงนี้ ระบบการบริโภคต่างๆ ก็กลับเข้ามาสู่ปกติ  โดยที่จีนคาดการณ์ว่าเขาจะขยายตัวร้อยละ 8  ก็ถือว่าเป็นข่าวที่ดีของจีน เนื่องจากเริ่มมีการฉีดวัคซีน   ซึ่งตอนนี้ทางจีนฉีดวัคซีนไปเกือบ 70 ล้านคนแล้ว มันไปช่วยกระตุ้นเรื่องของการส่งออกและการบริโภคอะไรต่างๆ จะกลับมาฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากเดิมที่เศรษฐกิจชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร การบริโภค ธุรกิจบริการชะลอตัวหมด แต่ตอนนี้ถือได้ว่าเรากลับมาปกติแล้ว

“พี่อยู่ที่คุนหมิงใช้ชีวิตปกติ  ไปไหนก็ไม่ได้ใส่หน้ากากแล้ว ยกเว้นเราไปที่ทำการของราชการเท่านั้น นอกนั้นเราเดินไปตาม Shopping Mall ต่างๆ ก็ปกติ คนส่วนใหญ่ใส่หน้ากากกันน้อยมาก เพราะทางจีนตอนนี้เขาประกาศว่า ไม่มีเชื้อแล้ว ความเสี่ยงของเราเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงระดับต่ำ กลาง ถึงสูง รัฐบาลประกาศว่าเราไม่มีแล้ว” คุณณชธร กล่าว

คุณณชธร กล่าวว่า  เรื่องของการขยายตัวทางเศรษฐกิจอะไรที่จะส่งผล กับทางประเทศไทยชัดๆ คือเรื่องของการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือกำลังซื้อของจีนถือว่าขยายตัวแบบก้าวกระโดด ยกตัวอย่างเช่น เรื่องรายได้ต่างๆ ก็คือเติบโตไปเกือบ 5% ส่วนการบริโภคถือได้ว่ากำลังซื้อยังมี สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจการบริโภคของจีนฟื้นตัวมากขึ้นมาจากนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นการบริโภคและการสร้างตลาด สร้างสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้เอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดการบริโภค เดิมผู้บริโภคนิยมจับจ่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนผลิตภัณฑ์ในบ้านอาหารรถยนต์ ถือว่าเป็น 25% ของทั้งหมด ถ้าเป็นการบริโภคเครื่องใช้ในครัวเรือนตอนนี้ผู้บริโภคก็จะไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการพัฒนาการค้ารูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะรูปแบบของการค้าออนไลน์เป็น 20-25% เรื่องของแพลตฟอร์มต่างๆ แต่ละเมืองจะเป็นเมืองที่บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพของไทย และรัฐบาลก็เอื้อด้วยการที่ปรับปรุงถนนหนทางต่างๆ ถนนช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน ถึงกับมีการส่งเสริมเรื่องของเศรษฐกิจแผงลอยด้วย รวมไปถึงเรื่องของ นานาชาติระหว่างประเทศ รัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องของ exhibition ที่จะจัดค่อนข้างใหญ่ นอกนั้น ยังจะมีงาน consumer product ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

อีกงานหนึ่งที่จีนจะต้องจัดการเกี่ยวกับผู้บริโภค เขาจะขยายเครือข่ายการบริโภคให้สามารถกระจายไปถึงชนบท เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งในชนบทเองก็จะมีการซื้อขายออนไลน์  นอกเหนือจากตรงนี้ก็เป็นการขยายตัวของธุรกิจและการค้าออนไลน์ การค้าออนไลน์ของจีนตอนนี้ถือได้ว่าตลอดปีเรามีมูลค่าถึง 39 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนมากจะอยู่ในเขตเมืองและชนบท ในชนบทเพิ่มขึ้นถึง 5 % ที่นี้เรามาดูกันว่าทำไมการค้าของเขาถึงได้ขยายตัว เนื่องจากเรามีสินค้าต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเครื่องมือสื่อสาร Gadget , IP และเครื่องสำอางต่างๆ ก็ได้รับความนิยม พวกนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20%

คุณณชธร กล่าวว่า ขอพูดถึงการบริโภคในภาครวมก่อน  พฤติกรรมการบริโภคของคนจีนก็เรียกได้ว่า ร้อยละ 50 มาสนใจเรื่องคุณภาพ ของสินค้า คือสินค้าของเรา Package ต้องสวยงาม มีความล้ำสมัย  ต้องสร้างข้อมูลให้กับผู้บริโภคให้มีความหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นสมมุติใครจะซื้อของออนไลน์จะต้องเช็คกับผู้ขายได้ด้วย จะมี Option ให้เราเลือก สามารถคุยได้ และอีกอันที่น่าสนใจคือเขายอมรับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศหรือสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม อย่างของเราก็มี Top Thai Brand  ที่เราทำมาตลอดเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เราก็ประสบความสำเร็จ  เพราะเรานำสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นแบรนด์ดังๆของประเทศไทย เข้ามาในจีนให้กับผู้บริโภคที่นี่

แนวโน้มที่เป็นกระแสที่น่าสนใจก็คือเรื่องของการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค  ที่มีการนำเข้าสินค้าที่มีคุณภาพมาถึง 70%  ของการบริโภคทั้งหมด  ได้แก่กลุ่มอาหาร เช่น นม อาหารเสริม อาหารทะเล ผลไม้ สินค้าแม่และเด็ก ผู้บริโภคให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยและคุณภาพ หลังการแพร่ระบาดของโควิด ทุกคนจะใส่ใจเรื่องของคุณภาพไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อความปลอดภัย  การปนเปื้อน ก็จะหันมาหาสินค้าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นไม่ค่อยปรุงแต่ง ยกตัวอย่าง เครื่องสำอางค์ก็จะเป็นเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด เพราะขณะนี้อาจจะมีความกังวลเรื่องสารปนเปื้อน

นอกจากนี้ ยังต้องการสินค้าที่มีความละเอียดอ่อนทันสมัย อย่างที่เรียนไปตั้งแต่ตอนแรกรวมทั้งผู้สูงอายุก็เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีในการเลือกซื้อออนไลน์มากขึ้นอันนี้ก็จะเป็นเทรนใหม่ๆที่อยากจะเรียนให้ทราบ หลังจากโควิดซาลง ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการซื้อสินค้า ผ่านทางแพลตฟอร์ออนไลน์ รวมไปถึงผู้สูงอายุตอนนี้ซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นถึง 15% อันนี้เป็นภาพกว้างๆ ที่ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการไทย

“ ขณะนี้เรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ จะเห็นว่าความร้อนแรงลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ความร้อนแรงค่อนข้างเยอะมาก มีการตั้งเงื่อนไขในเรื่องของ ภาษีอะไรต่างๆ แต่ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนก็พยายามที่จะสงวนท่าที คือพยายามไม่สร้างความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่ดีที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สามารถคว้าชัยชนะมาได้ ก็เลยทำให้ในช่วงแรกๆ ที่ทราบว่า โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเท่าไหร่ ล่าสุดที่ มีการประชุม สงครามการค้าคิดว่าก็คงยังมีอยู่ต่อไป แต่คงต้องมีการปรับกลยุทธ์หรือยุทธศาสตร์กันบ้าง แล้วก็มีเรื่องของท่าทีต่างๆ ของจีน อาจจะต้องมีความแข็งกร้าวมากขึ้น  ต้องลองดูต่อไปว่าจะแข็งกร้าวมากน้อยแค่ไหน” คุณณชธร กล่าว

อย่างไรก็ดี  เรื่องสงครามการค้า ทำให้ทาง นักลงทุนที่อยากจะมาตั้งโรงงานหรือขยายการผลิตในประเทศใหม่ในเอเชีย หรือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย  และการเปลี่ยนแปลงที่คิดว่าน่าจะกระทบน้อย ก็จะเป็นเรื่องภาษีนำเข้า อาจจะได้รับผลกระทบในการนำเข้าภาษีที่น้อยลง และอีกอันหนึ่งที่เราจะได้รับผลกระทบก็คือเรื่องของซอฟต์แวร์  แอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยี 5 G ที่เป็นนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีของทางการจีน ที่ถือว่าค่อนข้างก้าวหน้าไปไกลตรงนี้ก็ได้มีการรองรับกัน  คิดว่าสงครามการค้ายังคงมีต่อไป แต่ว่าความรุนแรงหรือว่าความเข้มข้นจะลดลงและอาจจะมีความร่วมมือดีๆ เกิดขึ้น เป็นกรอบความร่วมมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางสหรัฐ รวมทั้งทางอาเซียนเราก็จะมีพวกความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APAC)  เป็นข่าวดีเหมือนกันนะคะ และในมุมของท่านสินค้าไทยอะไรที่ยังพอมีโอกาสและมีศักยภาพ ที่จะไปขายในตลาดจีน

สินค้าไทยถ้าเราดูจาก สถิติสินค้าที่จีนนำเข้าจากไทยในช่วงปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิดก็ขยายตัว 4.4 % จะเป็นเครื่องจักรและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง ที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นผลไม้ เราขยายตลาดไปค่อนข้างสูงและอีกตัวหนึ่งจะเป็นอุปกรณ์รางรถไฟ เพราะตอนนี้จีนมีระบบรถไฟความเร็วสูงที่ค่อนข้างทันสมัย ก็จะมีการส่งส่วนประกอบต่างๆ เข้าไปที่ประเทศไทย ตอนนี้ขยายตัวถึง 50% แต่ว่าเราก็มาดูว่าสินค้าของไทยอะไรที่ขายดี เป็นที่ต้องการของชาวจีน อันนี้ต้องเรียนว่าสินค้าของไทยที่ขายดีจริงๆ มาจากอะไร ก็มาจากการท่องเที่ยวกลุ่มยอดฮิตเป็นสินค้าที่ได้จากคนจีนที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทย  ถ้าไม่เกิดโควิดก็เฉียด 10 ล้านคน สินค้าพวกนี้ได้รับความนิยมจากการเข้าไปท่องเที่ยว และมันก็จะมีการนำเข้าสินค้าไทย

ในช่วงแรกๆ ของการค้า โชคดีที่สินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีแบรนด์ที่ดี เข้ามาทำตลาดในช่วงแรกๆ  ทำให้คนจีนเกิดความประทับใจว่าสินค้าไทยมีคุณภาพดี ภาพลักษณ์ของเรา รสชาติหรืออะไรต่างๆ ก็เป็นที่ถูกปาก ที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นอาหารไทย อาหารไทยก็ต้องยกให้กับความหลากหลายความมีคุณภาพทันสมัยก็เลยส่งเสริมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ขายดีก็จะเป็นกลุ่มซอสหรือเครื่องปรุงรสต่างๆน้ำพริกเผา ต้มยำ โดยเฉพาะต้มยำกุ้งได้รับความนิยมค่อนข้างมากในร้านอาหารไทย

กลุ่มอาหารขนมขบเคี้ยวผลไม้อบแห้งผลไม้กระป๋องน้ำผึ้งรังนกเป็นที่โปรดปรานมากของชาวจีน เพราะว่ามีความเชื่อว่ารับประทานรังนกแล้วจะสุขภาพดีผิวพรรณดีก็เลยทำให้เราได้รับความนิยม น้ำผลไม้ นมถั่วเหลืองของไวตามิลค์ ก็ค่อนข้างดี อันดับ 2 เป็นผลไม้ไทย ก็เข้ามาทุกช่องทางคือหาซื้อได้ง่าย ไปตลาดสดหรือไปค้าส่งหรือไปซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือออนไลน์ ผลไม้ที่ดังๆของเราก็จะเป็น ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ มะพร้าวอ่อน กล้วยไข่ ก็เป็นที่นิยมชื่นชอบเพราะมีความเชื่อว่าของเรามีคุณภาพ อาหารของเรารสชาติอร่อย เน้นผลไม้สดมากกว่าแปรรูป ที่นี้เนื่องจากทางคนจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น ราคาก็จะถูกกว่าผลไม้ของที่อื่น แล้วอีกอย่างก็คือ การขนส่ง ผลไม้ของเราขนส่งมาได้หลายๆ ด่าน มาทางเรือ มาทางรถ เส้นทางเชียงราย หรือมาทางหุนเสียวเส้นทางรถ ทางเวียดนาม ก็สามารถที่จะนำเข้ามาได้หลายเส้นทาง เลยทำให้การจัดจำหน่ายต่างๆ มันทั่วถึง อีกอันหนึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับ จุดจุดจุดเนื่องจากการผลิตของจีนไม่ได้มีปัญหามากเพียงพอต่อความต้องการจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ต้องบอกก่อนว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องประชาชนก็จะ มีมีกำลังซื้อเลยทำให้มีความต้องการมากขึ้นอีกอันหนึ่งเป็นสินค้าตัวใหม่ที่เราเพิ่งจะได้รับว่ามีการนำเข้าก็คือเนื้อไก่ พวกชิ้นส่วนของไก่ ไก่แช่แข็ง ก็ได้รับความนิยม

คุณณชธร กล่าวต่อไปว่า  ในแง่ของการสร้างแบรนด์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จัก ควรจะตั้งชื่อแบรนด์เป็นภาษาจีน ยกตัวอย่างเช่น สมมุติยี่ห้อของเราเป็นตัวอย่างของจริงคือกินรี เราไปตั้งยี่ห้อกินรีการออกเสียงของคนจีนจะยาก เราก็เลยตั้งชื่อเป็นกินหลายที่  คาร์ฟูร์ก็เป็นเจอเลอะสู ทีนี้ต้องคิดชื่อภาษาจีนเพื่อให้เขาจดจำและเราสร้างแบรนด์ในประเทศไทยก่อน โดยขายในสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดที่คนจีนชอบไปท่องเที่ยว เราพยายามสร้างแบรนด์ตรงนั้นให้เป็นที่รู้จักก่อน หรือถ้าสินค้าเรามีคุณภาพดี เราเข้าคิงพาวเวอร์เลย ต้องเข้าไปสู่ตลาดท่องเที่ยวที่จะทำให้คนจีนสามารถรู้จักแบรนด์ของเรา

สำหรับการค้าออนไลน์ของจีน มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด  จับจ่ายใช้สอยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีนมีมูลค่าสูงมาก  มีคนใช้อินเทอร์เน็ต 650 ล้านคน และมีคนที่ซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ประมาณ 400 ล้านคน ผ่านแพลตฟอร์มดังๆ มีทุกระดับตั้งแต่ค้าส่ง ค้าปลีก รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต มีทั้ง B2B แบบ B2C ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆเช่นทีมีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุด อันนี้เหมาะกับแบรนด์ของไทยที่จะเข้าสู่ตลาดจีน จะมีแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆมากมาย ส่วนแบรนด์ของ Taobao จะเป็นC2C ส่วนร้านค้าจะเป็นร้านค้าท้องถิ่นขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง รวมถึงการขายของมือสอง เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการทดลองตลาดจีน และอีกอันหนึ่งที่กำลังมาแรงก็เป็น WeChat WeChat เป็น แอพพลิเคชั่น ในการสื่อสารที่มีความนิยมมากที่สุดในประเทศจีน ในเรื่องของการโฆษณาบน WeChat ไม่ว่าจะเป็น official account ต่างๆ อีกอันจะเป็นจริงตงตง ก็น่าจะรู้จักกันดี เป็นร้านค้าปลีกโดยตรง  สำหรับผู้บริโภคชาวจีนอันนี้ก็มีแพลตฟอร์มที่เป็นค่าส่งก็จะเป็น 18.com อันนี้ก็จะเป็นภายใต้ของ Alibaba แพลตฟอร์มที่จะเข้าสู่ตลาดออนไลน์ของจีน

“สิ่งที่จะแนะนำอันดับแรกคือน่าจะร่วมมือกับผู้นำเข้าก่อนเพราะว่าผู้นำเข้าเขามีบริษัทมีคลังสินค้าพร้อมอยู่แล้ว รวมทั้งระบบพร้อมอยู่แล้ว อันดับแรกที่จะแนะนำ การร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเราในประเทศจีน ถ้าสมมุติว่ายังหาตัวแทนไม่ได้ ก็จะเข้ายากนิดนึง เนื่องจากว่าการค้าออนไลน์ต่างๆ จะต้องมีระเบียบของการค้าออนไลน์ เช่นถ้ามาจัดตั้งบริษัทที่จีนก่อนจึงจะสามารถเปิดแพลตฟอร์มได้ ไม่ว่าจะเป็น T aobao   หรืออย่างอื่น ทางแพลตฟอร์มก็จะเลือกคนหรือเลือกสินค้าด้วย อันนี้ก็จะเป็นขั้นตอน แล้วก็จะมี กฎระเบียบด้วยว่าจะต้องขนส่งภายใน 3 วัน คืนสินค้า 10 วัน ถ้าเราไม่มีตัวแทนจำหน่ายที่จีนก็จะเป็นปัญหา นี่ก็จะเป็นแพลตฟอร์มเบื้องต้น ส่วนสินค้าไทยที่จำหน่ายในออนไลน์อันดับ 1 จะเป็นเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็น Mistine , Beauty Buffet หรืออะไรต่างๆ ก็จะอยู่ในด้านของออนไลน์ทั้งหมด ส่วนของแห้งก็จะเป็นทุเรียนอบกรอบมะม่วงแห้งหรือจะเป็นเครื่องปรุงรสต้มยำกุ้งขนมขบเคี้ยวอันที่มาแรงก็คือทาโร่ เพื่อที่จะไปที่ cool1 ที่มีชื่อเสียงของจีนแล้วก็มีพวกกลุ่มของยางพารา ” คุณณชธร กล่าว

คุณณชธร กล่าวทิ้งท้ายว่า หากผู้ประกอบการสนใจที่จะเปิดตลาดส่งออกที่จีน ก็สามารถติดต่อโดยตรงมาที่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ. นครคุนหมิง ซึ่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน เรามีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศหลายแห่งที่นครเซี่ยงไฮ้ นครคุนหมิง นครเฉิงตู เมืองเซี้ยะเหมิน เมืองกวางโจว เมืองหนานหนิง เมืองชิงต่าว และ ฮ่องกง  หรือเข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ    ปีนี้เราก็จะมีกิจกรรมของ Top Thai Brand   ในเร็วๆนี้ ก็สามารถมาเข้าร่วมงานได้ แต่ว่าตอนนี้ อาจจะยังเดินทางมาไม่ได้ก็อาจจะใช้วิธี Miller and Miller ก็คือส่งสินค้ามา แล้วทางเราก็จะจัดการตรงนี้ให้ว่าให้ผู้ประกอบการมีแอนติเจนหรือมีตัวแทนออกบูธ เราจัดเป็นลักษณะของ up  Store ปีนี้ปีนี้เราได้จัดในแบบของ Top Thai Brand ปีนี้ปีที่ 5 แล้ว ก็อยากประชาสัมพันธ์ตรงนี้รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆแล้วก็จะมีการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยผ่านห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้ร่วมมือกับ Supermarket ต่างๆก็เป็นที่น่ายินดีที่ผลไม้ของไทยเราจะได้มาประชาสัมพันธ์รวมทั้งในเรื่องของร้านอาหาร ที่ได้รับประทับตรา Thai select ก็จะได้รับประชาสัมพันธ์ควบคู่กันกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ แพลตฟอร์มการสั่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดของจีน คือ ตาโจ้เหมยหยวน ก็จะมีการร่วมมือกัน เป็นปีที่ 2 แล้วถ้ามีใครต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็ยินดีให้ข้อมูล

รับชมวีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=2DmBZo57Mgo