Exporter World Talk

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564

Exporter World Talk EP:08 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า เชิญคุณจักรกริช ปิยะศิริกุล หัวหน้าสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ณ นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  มาอัพเดตสถานการณ์การค้า การลงทุนในเวียดนาม ให้ผู้ประกอบการที่สนใจขยายตลาดการส่งออก และ สนใจย้ายฐานการลงทุน ไปที่เวียดนาม ได้ข้อมูลไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจ

คุณจักรกริช กล่าวว่า ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการส่งออกขยายตัวสูงมาก เพราะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มาก เนื่องจากควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดี ทั้งนี้เวียดนามติดเชื้อโควิดในรอบแรกคือเดือน ก.พ. 2563 แล้วก็ซา จากนั้นมาระบาดรอบ 2 กลางปี 2563 ที่แถวเมืองดานัง และขณะนี้พบเชื้อรอบที่ 3 มีศูนย์กลางการแพร่กระจายอยู่ทางภาคเหนือของเวียดนาม แต่รัฐบาลประกาศว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว มีผู้ติดเชื้อ 20-30 คน ทำให้เศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าค้าขายกันตามปกติ

นอกจากนี้ การลงทุนต่างชาติก็ยังไหลมาที่เวียดนามเยอะขึ้น จากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนและเวียดนาม ที่ทำให้มีโรงงานผลิตสินค้าอิเล็กโทรนิคขนาดใหญ่อย่าง ฟอกซ์คอนน์ ที่ผลิตชิ้นส่วนให้กับแอปเปิ้ล ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาที่เวียดนาม  ใครทะเลาะกับใครเวียดนามรับหมด 

ถามว่าทำไมประเทศเวียดนามถึงน่าลงทุน ก็ต้องบอกเลยว่า เวียดนามมีจุดเด่นหลายประการที่น่าสนใจ

1.เวียดนามมีประชากรถึงร้อยกว่าล้านคน ประชากรวัยแรงงานมี 55 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทย มีประชากร 70 กว่าล้านคน มีประชากรในวัยแรงงานแค่ 20 ล้านคน และทยอยสูงอายุ ดังนั้นเวียดนามมีจำนวนแรงงานมากกว่าไทย 2 เท่า

2.เวียดนามมีค่าจ้างแรงงานถูก ค่าแรงขั้นต่ำประมาณวันละ 170-200 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ ในขณะที่ประเทศไทยค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 300-400 บาท   

3.เสถียรภาพทางการเมือง อันนี้จะเห็นว่าเวียดนามไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย  ในขณะที่ประเทศไทยหรือเพื่อนบ้านก็มีปัญหาการเมืองอยู่ เสถียรภาพและการจัดการทางการฑูต  สงครามการค้าจีนกับสหรัฐอเมริกา ทำให้มีผลกระทบกับซัพพลายเชนที่ส่งของไป 2 ประเทศด้วย แต่เวียดนามไม่เจอผลกระทบอะไรเรื่องสงครามการค้าเลย   อี

4 . เวียดนามขยายการค้าไปต่างประเทศค่อนข้างเยอะ  มีการลงนาม FTA กับหลายๆ ประเทศ หลายๆ FTA เลย  เป็นข้อตกลงการค้าเป็นฟรีเทรด 

4 ข้อนี้เป็นจุดเด่นจริงๆ

จุดแข็งเหล่านี้ นำไปสู่ การค้า การลงทุน ที่ต่างชาติเข้าไปลงทุนในเวียดนาม  สมมติเราเป็นผู้ประกอบการ เวียดนามมี FTA  ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี  การที่ไปลงทุนผลิตในเวียดนามเพื่อส่งออกสินค้าออกไป  ก็จะได้สิทธิประโยชน์ในจุดนี้ด้วย

คุณจักรกริช กล่าวว่า จุดที่เป็นอุปสรรคที่เวียดนามยังรอเคลียร์ มีเรื่องค่าเงิน แต่ต้องยอมรับว่าเวียดนามเขาแทรกแซงค่าเงินจริง ย้อนหลังไปดู สามสี่ปีที่ผ่านมาค่าเงินเขาไม่สวิง สเตเบิ้ล ในช่วงรัฐบาลที่แล้วของสหรัฐอเมริกา เขามาดูว่าใครที่ได้เปรียบการค้ากับอเมริกามากๆ เขาก็เข้ามาแทรกแซง ดูแลตรงนั้น แต่ ณ วันนี้ปัญหานี้ไม่น่าเกิด แอปเปิ้ลก็มาลงทุนในเวียดนามเหมือนเขาไม่ได้กังวลเท่าไหร่

สำหรับ FTA ที่น่าสนใจและผู้ประกอบการพูดถึงมากที่สุดคือ FTA ระหว่าง เวียดนาม-อียู เพราะจะได้ประโยชน์มากในหลายสินค้า  การที่ FTA ฉบับนี้น่าสนใจก็เพราะ เวียดนามส่งสินค้าไปสหภาพยุโรป (EU) คิดเป็นประมาณ 13% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ไม่นับรวมสหราชอาณาจักร (UK) หากรวม UK ด้วยก็จะมีมูลค่าส่งออกรวม 17-18% ของทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับที่เวียดนามส่งออกไปจีน

คราวนี้เราต้องมาดูกันว่าสินค้าประเภทไหนที่เขาได้สิทธิประโยชน์บ้าง สินค้าประเภทแรกคือเครื่องนุ่งห่มและสินค้าเกษตร ที่ส่งออกค่อนข้างอิสระ  เวียดนามยังมีการเกษตรพอๆ กับไทย มีข้าว ก็ได้สิทธิประโยชน์ เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ หรือแม้กระทั่งเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ  FTA ระหว่าง เวียดนาม-อียู ได้มีการลงนามไปเมื่อปีที่แล้ว หลังโควิดจบอาจจะเห็นการค้าเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ถ้ามาเปรียบเทียบกับประเทศไทย ค่าแรงเราสู้ไม่ได้ จำนวนคน หาคนเข้ามาทำงานสู้ก็ไม่ได้  ส่งออกก็เสียภาษีมากกว่าเวียดนามเสีย ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยมองในมุมนี้เราก็อาจจะสู้เขาไม่ได้   

นอกจากนี้ เวียดนามมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับ อเมริกาเหนือและแอฟริกาใต้ เขาเซ็นต์ข้อตกลงตรงนี้ก็จะขยายตลาดส่งสินค้าไปแคนาดา  ซึ่งข้อตกลงนี้จะครอบคลุมจำนวนประชากรที่อยู่ในประเทศที่มาเซ็นสัญญาด้วย รวมๆแล้ว 500 ล้านคน มองเป็นสัดส่วนการส่งออกโลก คิดเป็น 15%  ของการส่งออกทั้งโลก

“ RCEP มองจริงๆ เวียดนามได้ประโยชน์เยอะอยู่ ไปดูสมาชิกที่อยู่จะมีอาเซียน มีญี่ปุ่น มีเกาหลี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย  การส่งออกเวียดนามจะได้ประโยชน์ แต่ไทยก็ลงนามเหมือนกัน ซึ่งจริงๆแล้ว เคยลองอ่านบทความเวียดนามชูสินค้าส่งไป คือเทคโนโลยี สิ่งทอ รองเท้า การเกษตร เป็นกลุ่มที่ส่งออกเดิมๆ ”  

ทั้งนี้ โอกาสการเข้าไปทำการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนของผู้ประกอบการไทย ในเวียดนามนั้น มี 2 แบบ

“คนเวียดนามเขามองสินค้าไทยมีคุณภาพ เทียบกับสินค้าจีน สินค้าจะมีคุณภาพกว่า แม้ว่าราคาแพงกว่าเล็กน้อย คนเวียดนามก็พร้อมที่จะซื้อสินค้าไทยมากกว่า  สินค้าไทยที่เป็นที่รู้จักคือ อาหารแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นข้าวอบกรอบโดโซะ ปลากระป๋องสามแม่ครัว เป็นสินค้าที่คนเวียดนามให้การยอมรับ  จุดเริ่มต้นคนไทยผลิตแล้วส่งออกไปเวียดนาม แต่เดี๋ยวนี้สามแม่ครัวตั้งโรงงานผลิตปลากระป๋องในเวียดนามเลย คือจับปลาแล้วผลิตที่โรงงานและขายเลย เวียดนามมีประชากรร้อยล้านคน ประชากรมีรายได้ปานกลางเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อเริ่มจะสูงมากขึ้นด้วย  มีโอกาสที่จะทำตลาดได้ดี ประชากรที่มีรายได้ปานกลางเพิ่มจำนวนขึ้น ” คุณจักรกริช กล่าว

ทางด้านการลงทุนนั้น  ขณะนี้มีนักธุรกิจไทยรายใหญ่ไปลงอุตสาหกรรมหนัก เช่น ไฟฟ้า ปิโตรเคมีคัล นิคมอุตสาหกรรม เป็นรายใหญ่มากๆ ถ้าเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ล่าสุดเมื่อก่อนโควิดได้คุยกับผู้ประกอบการรายหนึ่ง ต้องเกริ่นก่อนว่า ที่เวียดนามการก่อสร้างเขาเยอะมาก ผู้ประกอบการรายนี้ เขาไปลงทุนทำท่อร้อยสายไฟในเวียดนาม เขาบอกสามสี่ปีเขาก็คืนทุนแล้ว ก็เลยมองว่า นอกจากสินค้าอุปโภคบริโภค พวกที่เป็นสินค้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นโอกาส อีกอย่างนึงประเทศเวียดนามยังไม่มีปิโตรเคมีเยอะ  ตอนนี้มีนักลงทุนไทยรายใหญ่เข้าไป ที่ผ่านมาเขาขาดขวดพลาสติก ขาดแคลนแพกเกจจิ้ง   

คุณจักรกริช กล่าวว่า การที่เอ็กซิมแบงก์มีสำนักงานผู้แทนในเวียดนาม เพราะ  เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ดึงดูดการลงทุน นำเงินตราเข้าประเทศได้มาก  เราต้องไปเพื่อสนับสนุนนักลงทุนไทย เรามีความตั้งใจไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์ เป็นสมาชิกแอสโซซิเอชั่นในเวียดนาม เพื่อให้ได้ข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด  ได้ข้อมูลมาก็จะได้เป็นบิสซิเนสแมทชิ่ง สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการคู่ค้าหรือนำเข้าสินค้ามาขายในเวียดนาม ก็จะหาจับคู่ลงทุนให้กับผู้ประกอบการได้

รับชมวีดีโอ คลิก https://www.youtube.com/watch?v=a3KocpHB_O4